สารบัญ
- บทนำ: การออกกำลังกายคีเกลคืออะไร
- ประโยชน์ของการออกกำลังกายคีเกล
- ใครควรออกกำลังกายคีเกล
- ใครไม่ควรออกกำลังกายคีเกล
- วิธีออกกำลังกายคีเกลอย่างถูกต้อง
- ท่าออกกำลังกายอื่น ๆ ที่ช่วยเสริมกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน
- ข้อควรระวังในการฝึกคีเกล
- สรุป
- Q&A
บทนำ: การออกกำลังกายคีเกลคืออะไร
การออกกำลังกายคีเกล (Kegel Exercise) เป็นการออกกำลังกายที่พัฒนาขึ้นโดยแพทย์สูติ-นรีเวชชาวอเมริกัน Arnold Kegel ในทศวรรษ 1940 KUBETโดยมุ่งเน้นการฝึก กล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน (Pelvic Floor Muscles)
กล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานอยู่บริเวณก้นกระดูกเชิงกราน KUBET มีลักษณะคล้ายแผ่นรองรับหรือเปลญวน คอยรองรับอวัยวะต่าง ๆ เช่น กระเพาะปัสสาวะ มดลูก และลำไส้ตรง หากกล้ามเนื้อกลุ่มนี้อ่อนแรงจากอายุ การตั้งครรภ์ การผ่าตัด หรือพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้องต่อเนื่อง อาจทำให้เกิดปัญหา ปัสสาวะเล็ด กระดูกเชิงกรานหย่อนคล้อย หรือกระทบต่อคุณภาพชีวิตทางเพศการออกกำลังกายคีเกลจะช่วย เสริมความแข็งแรงของกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน ช่วยป้องกันและแก้ไขปัญหาที่เกี่ยวข้องได้อย่างมีประสิทธิภาพ KUBET
วัน/ระดับ | ชุด (Set) | ครั้ง (Repetitions) | การหดและคลาย (Hold & Relax) | หมายเหตุ |
---|---|---|---|---|
วันจันทร์ – พื้นฐาน | 2 | 10 | หด 5 วินาที → คลาย 5 วินาที | ฝึกรู้สึกกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน |
วันอังคาร – พื้นฐาน | 2 | 10 | หด 5 วินาที → คลาย 5 วินาที | สามารถทำตอนนั่งหรือยืน |
วันพุธ – พื้นฐาน | 2 | 12 | หด 5 วินาที → คลาย 5 วินาที | เพิ่มจำนวนครั้งเล็กน้อย |
วันพฤหัสบดี – เพิ่มความแข็งแรง | 3 | 10 | หด 10 วินาที → คลาย 10 วินาที | เริ่มเพิ่มเวลาหดกล้ามเนื้อ |
วันศุกร์ – เพิ่มความแข็งแรง | 3 | 12 | หด 10 วินาที → คลาย 10 วินาที | ทำช้า ๆ เน้นการควบคุม |
วันเสาร์ – ความอดทน | 3 | 15 | หด 5 วินาที → คลาย 5 วินาที | ฝึกจำนวนครั้งมากขึ้นเพื่อความทนทาน |
วันอาทิตย์ – พัก/ยืดหยุ่น | – | – | – | ให้ร่างกายฟื้นตัว |
ประโยชน์ของการออกกำลังกายคีเกล
- แก้ไขปัญหาปัสสาวะเล็ด
สำหรับผู้ที่มีอาการปัสสาวะเล็ดเมื่อไอ จาม หัวเราะ หรือออกกำลังกาย KUBETการฝึกคีเกลช่วยเพิ่มความแข็งแรงและควบคุมการขับถ่ายได้ดีขึ้น - ฟื้นฟูกล้ามเนื้อหลังคลอด
ผู้หญิงที่ตั้งครรภ์หรือคลอดบุตร กล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานมักถูกยืดKUBET การฝึกช่วยฟื้นฟูความยืดหยุ่นและความแข็งแรง - ป้องกันและแก้ไขภาวะกระดูกเชิงกรานหย่อนคล้อย
สำหรับผู้ที่มีกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานหย่อนหรือมีมดลูก/กระเพาะปัสสาวะหย่อนเล็กน้อย KUBETการฝึกช่วยเพิ่มการรองรับอวัยวะและลดอาการ - ฟื้นฟูหลังการผ่าตัดต่อมลูกหมากในผู้ชาย
ช่วยปรับปรุงการควบคุมปัสสาวะและฟื้นฟูสมรรถภาพ - เพิ่มคุณภาพชีวิตทางเพศ
เสริมความไวและการควบคุมของกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน KUBET ทำให้ความพึงพอใจทางเพศดีขึ้น - เสริมความแข็งแรงของแกนกลางลำตัว (Core Stability)
กล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานเป็นส่วนหนึ่งของกล้ามเนื้อแกนกลาง KUBET การฝึกช่วยเพิ่มความมั่นคงของร่างกายและประสิทธิภาพการเคลื่อนไหว
ใครควรออกกำลังกายคีเกล
- ผู้ที่มีปัญหาปัสสาวะเล็ด
- ผู้หญิงหลังคลอด
- ผู้ที่มีกระดูกเชิงกรานหย่อนคล้อยหรือกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานหย่อน
- ผู้ชายหลังผ่าตัดต่อมลูกหมาก
- ผู้ที่ต้องการเพิ่มคุณภาพชีวิตทางเพศ
หากคุณไม่มีปัญหาดังกล่าว การฝึกมากเกินไปอาจทำให้กล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานเกร็งเกินไปและเกิดปัญหาการขับถ่ายหรือความไม่สบายที่กระดูกเชิงกราน KUBET ควรประเมินความเหมาะสมกับตัวเอง และปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านกายภาพบำบัดเมื่อจำเป็น

ใครไม่ควรออกกำลังกายคีเกล
- กล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานเกร็งเกินไป
หากมักรู้สึกตึงบริเวณท้องน้อยหรือมีปัสสาวะไม่ต่อเนื่อง การฝึกอาจทำให้อาการรุนแรงขึ้น - มีปัญหาปัสสาวะหรืออุจจาระผิดปกติ
เช่น ปัสสาวะไม่ออก ปัสสาวะไม่หมด หรือท้องผูกรุนแรง ควรไปพบแพทย์ก่อน - เพิ่งผ่านการผ่าตัดและยังไม่ฟื้นตัว
เช่น การผ่าตัดสูติ-นรีเวชหรือทางเดินปัสสาวะ - ไม่มีอาการเกี่ยวข้อง
การฝึกมากเกินไปโดยไม่จำเป็น อาจทำให้กล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานเสียสมดุล
วิธีออกกำลังกายคีเกลอย่างถูกต้อง
ขั้นตอนที่ 1: หากล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน
- วิธีง่าย ๆ คือ ลองเกร็งกล้ามเนื้อขณะปัสสาวะ
- ข้อควรระวัง: ใช้วิธีนี้เฉพาะเพื่อหากล้ามเนื้อเท่านั้น ห้ามอั้นปัสสาวะเป็นเวลานาน เพื่อป้องกันกระเพาะปัสสาวะเสียหาย
ขั้นตอนที่ 2: เริ่มเกร็งกล้ามเนื้อ
- เลือกท่าที่สบาย เช่น นอนราบหรือนั่ง
- รวมสมาธิกับกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน เกร็งขึ้นเหมือนอั้นปัสสาวะ
- เกร็ง 3–5 วินาที แล้วคลาย 5 วินาที
- ทำ 10–15 ครั้งต่อชุด วันละ 3–5 ชุด
- หายใจเป็นปกติ ไม่กลั้นหายใจ
ท่าออกกำลังกายอื่น ๆ ที่ช่วยเสริมกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน
- ท่าสะพาน (Bridge Pose)
- นอนราบ งอเข่า วางเท้าราบพื้น
- ยกสะโพกขึ้น เกร็งสะโพกและกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน
- ค้าง 5 วินาที แล้ววางลง
- นอนราบ งอเข่า วางเท้าราบพื้น
- ท่าแมลงตาย (Dead Bug)
- นอนราบ ยกแขนตรงขึ้น และยกขาขึ้น 90 องศา หลังแนบพื้น
- ค่อย ๆ ลดแขนขวาไปด้านหลังศีรษะ และยืดขาซ้ายไปข้างหน้า
- กลับท่าเริ่มต้นแล้วสลับด้าน
- นอนราบ ยกแขนตรงขึ้น และยกขาขึ้น 90 องศา หลังแนบพื้น
- ท่าสควอตและแพลงก์
- การฝึกแกนกลางลำตัวทั่วไปก็ช่วยกระตุ้นกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานได้
- การฝึกแกนกลางลำตัวทั่วไปก็ช่วยกระตุ้นกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานได้
- กิจวัตรประจำวัน
- ขณะยกของหรือก้มเก็บของ เกร็งกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานช่วยรักษาความแข็งแรง
ข้อควรระวังในการฝึกคีเกล
- ฝึกพอดี ไม่มากเกินไป
การฝึกมากเกินไปอาจทำให้กล้ามเนื้อเกร็งหรือมีปัญหาปัสสาวะ - ท่าทางและการหายใจถูกต้อง
ท่าผิดอาจทำให้หลังส่วนล่างหรือท้องไม่สบาย - สม่ำเสมอ
ฝึกวันละไม่กี่นาทีต่อเนื่องเป็นระยะเวลานานเห็นผลชัดเจน - ผสมกับการออกกำลังกายแกนกลาง
กล้ามเนื้อแกนกลางและอุ้งเชิงกรานช่วยกัน ทำให้ร่างกายมั่นคงมากขึ้น
สรุป
การออกกำลังกายคีเกลเป็นวิธีเสริมความแข็งแรงของกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน แก้ปัญหาปัสสาวะเล็ด และเพิ่มคุณภาพชีวิตทางเพศ
ไม่ว่าจะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง หากทำถูกวิธี มีความถี่เหมาะสม KUBETและฝึกควบคู่กับกล้ามเนื้อแกนกลาง จะเห็นผลลัพธ์อย่างชัดเจน
อย่าลืมปรับตามสภาพร่างกายของตนเอง และปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญเมื่อจำเป็น เพื่อการฝึกที่ปลอดภัยและได้ผลสูงสุด
Q&A
คำถาม 1: การออกกำลังกายคีเกลคืออะไร และใครเป็นผู้พัฒนาวิธีนี้?
คำตอบ: การออกกำลังกายคีเกลเป็นการฝึกกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานเพื่อเสริมความแข็งแรงและควบคุมอวัยวะในช่องท้องส่วนล่าง พัฒนาขึ้นโดยแพทย์สูติ-นรีเวชชาวอเมริกัน Arnold Kegel ในทศวรรษ 1940
คำถาม 2: กล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานอยู่ตรงไหนและทำหน้าที่อะไร?
คำตอบ: กล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานอยู่บริเวณก้นกระดูกเชิงกราน มีลักษณะคล้ายแผ่นรองรับหรือเปลญวน ทำหน้าที่รองรับอวัยวะต่าง ๆ เช่น กระเพาะปัสสาวะ มดลูก และลำไส้ตรง และช่วยควบคุมการขับถ่ายและคุณภาพชีวิตทางเพศ
คำถาม 3: ใครบ้างที่ควรฝึกคีเกล และใครบ้างที่ควรหลีกเลี่ยง?
คำตอบ:
- ควรฝึก: ผู้มีปัญหาปัสสาวะเล็ด, ผู้หญิงหลังคลอด, ผู้มีกระดูกเชิงกรานหย่อน, ผู้ชายหลังผ่าตัดต่อมลูกหมาก, ผู้ที่ต้องการเพิ่มคุณภาพชีวิตทางเพศ
- ไม่ควรฝึก: ผู้มีกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานเกร็งเกินไป, ผู้มีปัญหาปัสสาวะหรืออุจจาระผิดปกติ, เพิ่งผ่าตัดและยังไม่ฟื้นตัว, ผู้ไม่มีอาการเกี่ยวข้อง
คำถาม 4: วิธีฝึกคีเกลขั้นพื้นฐานทำอย่างไร?
คำตอบ:
- หากล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานโดยลองเกร็งขณะปัสสาวะ (ห้ามทำบ่อยหรืออั้นนาน)
- เกร็งกล้ามเนื้อ 3–5 วินาที แล้วคลาย 5 วินาที
- ทำ 10–15 ครั้งต่อชุด วันละ 3–5 ชุด
- นอนราบหรือนั่งในท่าที่สบาย และหายใจปกติ
คำถาม 5: นอกจากท่าเกร็งปกติ มีท่าอื่นใดที่ช่วยเสริมกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานได้บ้าง?
คำตอบ: ท่าสะพาน (Bridge Pose), ท่าแมลงตาย (Dead Bug), สควอต, แพลงก์ และการเกร็งกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานขณะทำกิจวัตรประจำวัน เช่น ยกของหรือก้มเก็บของ
เนื้อหาที่น่าสนใจ: