สารบัญ
- บทนำ
- ร่างกายมีน้ำเท่าไหร่?
- ภาวะน้ำเป็นพิษคืออะไร?
- ต้องดื่มน้ำเท่าไหร่ถึงเป็นพิษ?
- สาเหตุทั่วไปของภาวะน้ำเป็นพิษ
- อาการของภาวะน้ำเป็นพิษ
- วิธีป้องกันภาวะน้ำเป็นพิษ
- สรุป
- Q&A
บทนำ
เราทุกคนรู้ว่าการดื่มน้ำช่วยให้ร่างกายทำงานได้อย่างปกติและสุขภาพดี แต่คุณเคยสงสัยหรือไม่ว่า ดื่มน้ำมากเกินไปอาจเป็นอันตรายได้? KUBET บทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจ ภาวะน้ำเป็นพิษ (Water Intoxication) และวิธีป้องกัน
| ประเด็น | รายละเอียด | 
|---|---|
| ความหมาย | ภาวะน้ำเป็นพิษเกิดจากการดื่มน้ำมากเกินไป ทำให้ระดับโซเดียมในเลือดต่ำเกินไป (Hyponatremia) | 
| สาเหตุหลัก | – ดื่มน้ำในปริมาณมากภายในเวลาสั้น- ออกกำลังกายหนักแล้วดื่มน้ำมากเกินไป- โรคบางชนิด เช่น ไตวาย หรือภาวะฮอร์โมนผิดปกติ | 
| อาการที่สังเกตได้ | – ปวดหัว วิงเวียน คลื่นไส้- มือ เท้า บวม- กล้ามเนื้อกระตุก- สับสน หรือหมดสติในกรณีรุนแรง | 
| ความเสี่ยง | อาจถึงขั้นช็อก หัวใจหยุดเต้น หรือเสียชีวิต หากไม่ได้รับการรักษา | 
| วิธีป้องกัน | – ดื่มน้ำในปริมาณพอดี (~1.5–2 ลิตร/วัน สำหรับผู้ใหญ่)- ดื่มน้ำตามความต้องการของร่างกาย- ระวังการดื่มน้ำมากเกินไประหว่างออกกำลังกายหนัก- หากมีอาการผิดปกติ รีบพบแพทย์ทันที | 
ร่างกายมีน้ำเท่าไหร่?
ร่างกายคนเราประกอบด้วยน้ำประมาณ 60% ของน้ำหนักตัว KUBET แต่ตัวเลขนี้อาจแตกต่างตาม อายุ เพศ มวลกล้ามเนื้อ และไขมันในร่างกาย
- ทารก: สูงสุด 75%
- ผู้ใหญ่: ประมาณ 60%
- อายุ 50 ปีขึ้นไป: ประมาณ 56%
- ผู้ชาย มักมีน้ำในร่างกายมากกว่าผู้หญิง
- มวลกล้ามเนื้อสูง = น้ำในร่างกายสูง
น้ำเป็นส่วนสำคัญต่อทุกกระบวนการในร่างกาย KUBET แต่ถ้ามีการดื่มมากเกินไป น้ำและ อิเล็กโทรไลต์ (Electrolytes) เช่น โซเดียม (Na+) จะเสียสมดุล ทำให้เกิด ภาวะน้ำเป็นพิษ
ภาวะน้ำเป็นพิษคืออะไร?
ร่างกายมี กลไกระดับน้ำ (Water Balance Mechanism) KUBET เพื่อควบคุมสมดุลน้ำและอิเล็กโทรไลต์ภายในเซลล์และนอกเซลล์
- เมื่อ น้ำมากเกินไป → อิเล็กโทรไลต์เจือจาง → อาจเกิด Hyponatremia (โซเดียมต่ำในเลือด)
- เซลล์และระบบต่าง ๆ ในร่างกายทำงานผิดปกติ
- ภาวะน้ำเป็นพิษเกิดจากน้ำมากเกินไป KUBET ไม่ใช่การดื่มน้ำตามปกติ

ต้องดื่มน้ำเท่าไหร่ถึงเป็นพิษ?
โดยปกติผู้ใหญ่ปกติ แทบเป็นไปไม่ได้ที่จะเกิดภาวะน้ำเป็นพิษจากการดื่มน้ำตามปกติ
- ไตคนเรา สามารถขับน้ำได้ 0.8–1 ลิตร/ชั่วโมง
- ขับน้ำต่อวัน ประมาณ 20–28 ลิตร
- การเกิดพิษเกิดจาก ร่างกายขับน้ำไม่ทัน
วิธีป้องกันง่าย ๆ: อย่าดื่มน้ำเกินกว่าที่ร่างกายจะขับออกได้ – ดื่มชั่วโมงละ < 0.8–1 ลิตร และต่อวัน < 20–28 ลิตร
สาเหตุทั่วไปของภาวะน้ำเป็นพิษ
- กลุ่มเสี่ยงพิเศษ: ทารก เด็ก ผู้หญิงร่างกายเล็ก KUBET หรือผู้สูงอายุ
- โซเดียมต่ำ: จากการอดอาหาร หรือทานน้อยเกินไป
- ผู้ป่วยเบาหวาน: โดยเฉพาะผู้มีภาวะ Diabetic Ketoacidosis
- โภชนาการไม่เพียงพอ + ดื่มน้ำมากเกินไป
- ดื่มน้ำมากเกินไปเพื่อออกกำลังกายหรือมาราธอน
- การให้สารน้ำทางหลอดเลือดมากเกินไป
- ผู้ป่วยจิตเวชบางราย เช่น โรคบังคับดื่มน้ำ
- ยาบางชนิด เช่น NSAIDs หรือยาที่ส่งผลต่อสมดุลน้ำและโซเดียม
สรุป: ภาวะน้ำเป็นพิษมักเกิดจาก ปัจจัยหลายอย่างร่วมกัน KUBET ไม่ใช่เพียงดื่มน้ำมาก ๆ
อาการของภาวะน้ำเป็นพิษ
เมื่อ โซเดียม < 130 mmol/L อาจพบอาการเบื้องต้น เช่น
- ปวดหัว วิงเวียน คลื่นไส้ ท้องเสีย
- รู้สึกหงุดหงิด อารมณ์แปรปรวน
- อ่อนเพลีย กล้ามเนื้ออ่อนแรง เดินไม่มั่นคง
- ไม่สามารถโฟกัสหรือมีสมาธิ
เมื่อ โซเดียม < 105 mmol/L หากไม่ได้รับการแก้ไข KUBET อาจเกิดอาการรุนแรง เช่น
- ชัก หรือหมดสติ
- สมองบวม เสี่ยงถึงชีวิต
- ภาวะนี้สามารถเกิดภายใน ไม่กี่ชั่วโมงถึงไม่กี่วัน
วิธีป้องกันภาวะน้ำเป็นพิษ
- ดื่มน้ำพอเหมาะ ตามความต้องการของร่างกาย
- ระวังการดื่มน้ำมากเกินไปในช่วง ออกกำลังกายหนัก, มาราธอน หรือวันที่อากาศร้อน
- เติมอิเล็กโทรไลต์ เช่น โซเดียม และโพแทสเซียม KUBET ในกรณีออกกำลังกายหนัก
- ผู้ที่มี โรคประจำตัวหรือใช้ยา ควรปรึกษาแพทย์ก่อนปรับปริมาณน้ำ
- สังเกต อาการเตือน เช่น ปวดหัว วิงเวียน หรือบวมผิดปกติ
สรุป
การดื่มน้ำเป็นสิ่งสำคัญต่อสุขภาพ แต่ ดื่มมากเกินไปอาจเป็นอันตราย KUBET โดยเฉพาะในผู้ที่ออกกำลังกายหนัก, ทารก, ผู้สูงอายุ หรือมีภาวะทางการแพทย์บางอย่าง
- ดื่มน้ำตามความต้องการร่างกาย
- ระวังอาการเตือนของโซเดียมต่ำ
- เติมอิเล็กโทรไลต์เมื่อจำเป็น
- ปรึกษาแพทย์ทันทีหากมีอาการรุนแรง
- การป้องกันดีกว่าการรักษา! การดื่มน้ำอย่างสมดุลช่วยให้คุณปลอดภัยและมีสุขภาพดี
Q&A
- 1. ภาวะน้ำเป็นพิษ (Water Intoxication) คืออะไร?
 เป็นภาวะที่ร่างกายได้รับน้ำมากเกินไป ทำให้อิเล็กโทรไลต์ เช่น โซเดียมเจือจาง เกิด Hyponatremia ส่งผลให้เซลล์และระบบต่าง ๆ ทำงานผิดปกติ อาจรุนแรงถึงชีวิต
- 2. ปริมาณน้ำเท่าไหร่ที่อาจทำให้เกิดพิษ?
 ไตคนเราสามารถขับน้ำได้ประมาณ 0.8–1 ลิตรต่อชั่วโมง หรือ 20–28 ลิตรต่อวัน ภาวะน้ำเป็นพิษเกิดเมื่อดื่มน้ำมากเกินกว่าที่ร่างกายจะขับออกได้
- 3. กลุ่มคนใดที่มีความเสี่ยงต่อภาวะน้ำเป็นพิษ?
 ทารก, เด็ก, ผู้หญิงร่างกายเล็ก, ผู้สูงอายุ, ผู้ป่วยเบาหวาน, ผู้มีภาวะโภชนาการไม่เพียงพอ, ผู้ที่ออกกำลังกายหนักหรือวิ่งมาราธอน, ผู้ป่วยจิตเวชบางราย และผู้ที่ใช้ยาบางชนิด เช่น NSAIDs
- 4. อาการเตือนของภาวะน้ำเป็นพิษคืออะไร?
 โซเดียม < 130 mmol/L: ปวดหัว, วิงเวียน, คลื่นไส้, ท้องเสีย, อารมณ์แปรปรวน, อ่อนเพลีย, กล้ามเนื้ออ่อนแรง, เดินไม่มั่นคง, สมาธิลด
 โซเดียม < 105 mmol/L: ชัก, หมดสติ, สมองบวม, เสี่ยงถึงชีวิต
- 5. วิธีป้องกันภาวะน้ำเป็นพิษคืออะไร?
 ดื่มน้ำพอเหมาะตามความต้องการของร่างกาย
 ระวังการดื่มน้ำมากเกินไปช่วงออกกำลังกายหนักหรืออากาศร้อน
 เติมอิเล็กโทรไลต์ (โซเดียม, โพแทสเซียม) เมื่อจำเป็น
 ผู้มีโรคประจำตัวหรือใช้ยา ควรปรึกษาแพทย์ก่อนปรับปริมาณน้ำ
 สังเกตอาการเตือนและพบแพทย์ทันทีหากมีอาการรุนแรง
เนื้อหาที่น่าสนใจ:



