น้อยหน่าพลังงานสูงและคุณค่าทางโภชนาการสูง กินไม่เกิน “ปริมาณนี้” ต่อวัน


สารบัญ

  1. บทนำ
  2. วิตามิน C สูง
  3. โพแทสเซียมสูง
  4. วิตามิน B2
  5. คาร์โบไฮเดรตสูง
  6. เปรียบเทียบพลังงานของสละพันธุ์สับปะรดและสละพันธุ์ใหญ่
  7. 3 กลุ่มคนที่ต้องระวังการบริโภคน้อยหน่า
  8. วิธีเลือกซื้อสละคุณภาพ

บทนำ

KUBETแม้น้อยหน่าจะมีเมล็ดเยอะ แต่รสชาติหวานอร่อยและได้รับความนิยมมาก แต่อย่าให้ความอร่อยหลอกลวงคุณ เพราะน้อยหน่ามีพลังงานสูง หากกินมากเกินไปอาจทำให้อ้วนได้! KUBETการกินน้อยหน่าต่อวันควรจำกัดไว้ที่ครึ่งลูก เพื่อให้ได้ทั้งรสชาติอร่อยและสุขภาพดี

น้อยหน่ามีรูปร่างแปลกตา รสชาติหวานและเนื้อสัมผัสนุ่ม เหล่าคนรักผลไม้บางคนอาจจะรู้สึกไม่สะดวกกับการเอาเมล็ดออก แต่น้อยหน่าเป็นผลไม้ที่มีคุณค่าทางโภชนาการมาก โดยน้อยหน่ามีสองพันธุ์ที่พบทั่วไป ได้แก่ สละพันธุ์ใหญ่และสละพันธุ์สับปะรด KUBETทั้งสองพันธุ์มีคุณค่าทางโภชนาการสูง แต่ต้องคำนึงถึงปริมาณและพลังงานที่บริโภคด้วยนะ!

วิตามิน C สูง

KUBETในน้อยหน่ามีวิตามิน C สูง โดยใน 100 กรัมของน้อยหน่าจะมีวิตามิน C 99 มิลลิกรัม ซึ่งใกล้เคียงกับผลไม้บางประเภทอย่างเช่นฝรั่งที่มีวิตามิน C ถึง 130 มิลลิกรัม วิตามิน C ช่วยต้านอนุมูลอิสระ เพิ่มภูมิคุ้มกัน และลดการอักเสบในร่างกาย KUBETนอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มการดูดซึมเหล็กและช่วยในการสร้างคอลลาเจน

โพแทสเซียมสูง

น้อยหน่ามีโพแทสเซียมสูงถึง 390 มิลลิกรัมใน 100 กรัม การบริโภคโพแทสเซียมเพียงพอช่วยป้องกันและควบคุมความดันโลหิต โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาความดันโลหิตสูงหรือผู้ที่มีอาการขาดโพแทสเซียม

วิตามิน B2

น้อยหน่ายังมีวิตามิน B2 ที่ช่วยรักษาสุขภาพผิวและซ่อมแซมเนื้อเยื่อ รวมถึงช่วยเสริมสร้างคอลลาเจนด้วย

คาร์โบไฮเดรตสูง

น้อยหน่ามีคาร์โบไฮเดรตค่อนข้างมาก โดย 100 กรัมจะมีคาร์โบไฮเดรต 26.6 กรัม ซึ่งเทียบเท่ากับพลังงานจากข้าวหนึ่งถ้วย นอกจากนี้น้อยหน่ายังมีค่า GI (ดัชนีน้ำตาล) อยู่ในระดับกลางถึงสูง หากต้องการเพลิดเพลินกับประโยชน์ของน้อยหน่าโดยไม่ทำให้อ้วน KUBETควรทานไม่เกินครึ่งลูกต่อวัน

เปรียบเทียบพลังงานของสละพันธุ์สับปะรดและสละพันธุ์ใหญ่

จริง ๆ แล้วสละพันธุ์สับปะรดและสละพันธุ์ใหญ่มีสารอาหารคล้ายคลึงกัน ทั้งวิตามิน C, เส้นใยอาหาร, และโพแทสเซียม รวมทั้งพลังงานก็ใกล้เคียงกัน KUBETไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับการบริโภคพลังงานมากเกินไปจากน้อยหน่าพันธุ์ไหน แต่ในด้านรูปลักษณ์และรสชาติ ทั้งสองพันธุ์มีลักษณะเด่นที่แตกต่างกัน:

  • สละพันธุ์สับปะรด
    ผิวผลมีสีเขียวเหลือง สละผลใหญ่ เมล็ดน้อย และมีเนื้อสัมผัสค่อนข้างแน่น
  • สละพันธุ์ใหญ่
    มีเมล็ดมากและเนื้อสละน้อยกว่า แต่รสชาติจะเข้มข้นและมีกลิ่นหอมของนม

3 กลุ่มคนที่ต้องระวังการบริโภคน้อยหน่า

แม้ว่าน้อยหน่าจะเป็นผลไม้ที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง แต่ยังคงมี 3 กลุ่มคนที่ควรระวังการกินน้อยหน่าในปริมาณที่เหมาะสม:

  1. ผู้ป่วยโรคไต
    น้อยหน่ามีโพแทสเซียมสูง ซึ่งการบริโภคโพแทสเซียมในปริมาณมากอาจทำให้ผู้ป่วยโรคไตไม่สามารถขับโพแทสเซียมออกจากร่างกายได้ KUBETทำให้เกิดปัญหาหัวใจหรือกล้ามเนื้ออ่อนแรง
  2. ผู้ป่วยโรคเบาหวาน
    น้อยหน่าเป็นผลไม้ที่มีค่า GI ค่อนข้างสูง ผู้ป่วยเบาหวานควรระมัดระวังในการบริโภค เพราะอาจทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มสูงขึ้น
  3. ผู้ที่ควบคุมน้ำหนัก
    ด้วยคาร์โบไฮเดรตและพลังงานสูง น้อยหน่าจึงไม่เหมาะกับคนที่กำลังควบคุมน้ำหนัก หากต้องการกินน้อยหน่า KUBET ควรกินไม่เกินครึ่งลูกต่อวันและควรคำนึงถึงพลังงานที่ได้รับในแต่ละวัน

วิธีเลือกซื้อสละคุณภาพ

สละมีช่วงฤดูกาลผลิตสองช่วง ได้แก่ สิงหาคมถึงตุลาคม และธันวาคมถึงมีนาคม โดยสละที่ปลูกในฤดูหนาวจะมีคุณภาพดีกว่า KUBETนอกจากนี้การเลือกสละที่มีคุณภาพดีนั้นก็ไม่ง่าย ดังนี้คือ 5 วิธีในการเลือกซื้อ:

  1. รูปร่างกลมมน
    เลือกสละที่มีรูปร่างกลมมน ไม่มีรอยบุบหรือรอยแตก เพราะหากมีรอยบุบอาจสุกเกินไปและไม่สด
  2. ลักษณะของเปลือก
    สละที่มีเปลือกเรียงเป็นแผ่นตา (เหมือนพระพุทธรูป) จะมีรสชาติหวานและมีน้ำมาก
  3. สีเปลือก
    เลือกสละที่เปลือกมีสีเขียวปนเหลือง ซึ่งจะมีรสชาติหวานที่สุด KUBETหากเปลือกมีจุดดำ แสดงว่าไม่สด
  4. น้ำหนักมากยิ่งดี
    สละที่มีน้ำหนักมากจะมีน้ำและความหวานสูง
  5. ควรเลือกสละที่สุกประมาณ 70-80%
    สละที่สุกประมาณนี้จะมีรสชาติหวานและเนื้อสัมผัสดีที่สุด




เนื้อหาที่น่าสนใจ: การแต่งงานควรหาคู่ชีวิตที่มีจิตวิญญาณเหมือนกัน หรือคนที่เติมเต็มกันดี