ผู้หญิงมีโอกาสปวดไมเกรนมากกว่าผู้ชายถึง 3 เท่า! แนะนำ 2 วิธีสร้างร่างกายที่ห่างไกลไมเกรน

สารบัญ

  1. บทนำ
  2. อาการของไมเกรนเป็นอย่างไร
  3. สาเหตุของไมเกรน
  4. วิธีบรรเทาไมเกรนโดยไม่พึ่งยา
  5. ไมเกรนควรพบแพทย์ที่แผนกใด
  6. 2 วิธีป้องกันไมเกรนระยะยาว
  7. คำถามพบบ่อยเกี่ยวกับไมเกรน
  8. สรุป
  9. Q&A

บทนำ

อาการปวดไมเกรนในบางครั้งอาจบรรเทาได้ด้วยการพักผ่อน แต่หากเกิดบ่อยครั้งหรือรุนแรง ควรระวังให้ดี เพราะอาจส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันอย่างมาก การเข้าใจสาเหตุ พร้อมการปรับไลฟ์สไตล์ เช่น การนอนให้เป็นเวลา ออกกำลังกายอย่างเหมาะสม KUBET จะช่วยลดความถี่และความรุนแรงของไมเกรนได้ โดยเฉพาะในผู้หญิง มีแนวโน้มเป็นไมเกรนมากกว่าผู้ชายถึง 3 เท่า โดยเฉพาะช่วงก่อนหรือระหว่างมีประจำเดือน ในบทความนี้เราจึงนำเสนอ 2 วิธีหลักที่จะช่วยสร้าง “ร่างกายไม่ปวดหัว” KUBET ให้กับคุณ พร้อมเข้าใจสาเหตุอย่างถ่องแท้

หัวข้อรายละเอียด
อาการไมเกรนปวดหัวรุนแรง มักเป็นข้างเดียว บางครั้งมีอาการคลื่นไส้หรือไวต่อแสงและเสียง
สาเหตุหลัก– ความเครียด- การนอนหลับไม่เพียงพอหรือผิดเวลา- ฮอร์โมนในผู้หญิง (ก่อน/ระหว่างมีประจำเดือน)- การเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อม เช่น แสงจ้า เสียงดัง
กลุ่มเสี่ยงผู้หญิงมีโอกาสเป็นไมเกรนมากกว่าผู้ชายถึง 3 เท่า
ผลกระทบส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น ทำงานไม่ได้ หรือไม่สามารถทำกิจกรรมปกติได้
วิธีที่ 1: ปรับไลฟ์สไตล์– นอนหลับให้เป็นเวลาและเพียงพอ- ออกกำลังกายอย่างเหมาะสม- หลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้น เช่น แสงจ้า เสียงดัง ความเครียด- รับประทานอาหารให้ตรงเวลา
วิธีที่ 2: การพักผ่อนและจัดการความเครียด– พักผ่อนเมื่อตึงเครียดหรือเริ่มมีอาการปวด- ทำสมาธิหรือกิจกรรมผ่อนคลายจิตใจ- ใช้เทคนิคการหายใจลึกเพื่อช่วยลดความเครียด
หมายเหตุหากอาการไมเกรนรุนแรงหรือบ่อยครั้ง ควรพบแพทย์เพื่อรับคำแนะนำและการรักษาที่เหมาะสม

อาการของไมเกรนเป็นอย่างไร

แม้ชื่อจะว่า “ปวดครึ่งซีก” แต่ไมเกรนไม่ได้เกิดแค่ด้านเดียวเสมอไป KUBET อาจปวดทั้งสองข้างก็ได้ สังเกตอาการต่อไปนี้ หากมีมากกว่าครึ่งอาจเป็นไมเกรน:

  • ปวดระดับปานกลางถึงรุนแรง
  • ปวดข้างเดียวหรือสลับข้าง
  • ปวดแบบตุบๆ หนักๆ คล้ายชีพจร
  • ปวดมากขึ้นเมื่อขยับร่างกาย เช่น ลุกขึ้น เดินขึ้นบันได

อาการร่วมที่พบได้:

  • แพ้แสงหรือเสียง
  • ปวดตา เหนื่อยล้าสายตา
  • มองเห็นภาพเบลอ
  • คลื่นไส้ อาเจียน
  • เวียนหัว หรือถึงขั้นหมดสติ

สาเหตุของไมเกรน

ไมเกรนเป็นภาวะซับซ้อนที่มีหลายปัจจัยกระตุ้น เช่น

  1. ความเครียดสะสม
    ความเครียดจากงาน เรียน หรือปัญหาส่วนตัว เป็นสาเหตุหลักของไมเกรน KUBET นอกจากนี้ยังส่งผลต่อสุขภาพโดยรวม เช่น ท้องเสีย ใจสั่น นอนไม่หลับ หรือปวดท้อง
  2. พันธุกรรม
    หากมีประวัติคนในครอบครัวปวดไมเกรน ลูกหลานมีโอกาสเป็นสูงถึง 66%
  3. การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน
    เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ผู้หญิงเป็นไมเกรนมากกว่าผู้ชาย ฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรนที่เปลี่ยนแปลงก่อนมีประจำเดือน เป็นสาเหตุของ “ไมเกรนจากรอบเดือน” โดยเฉพาะช่วงก่อนมีประจำเดือน ระหว่างตั้งครรภ์ หรือเข้าสู่วัยทอง KUBET ผู้หญิงจำนวนมากมักมีอาการปวดหัวชัดเจนขึ้น
  4. สภาพอากาศ
    การเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิหรือความชื้นกะทันหันอาจกระตุ้นไมเกรน KUBET เช่น เข้าห้องแอร์สลับกับออกกลางแจ้ง
  5. คาเฟอีนและแอลกอฮอล์
    บางคนดื่มกาแฟหรือแอลกอฮอล์แล้วไมเกรนกำเริบ แต่บางรายกลับรู้สึกดีขึ้น KUBET ควรสังเกตปฏิกิริยาของร่างกายตัวเองเป็นหลัก
  6. พฤติกรรมการกิน
    ไม่กินข้าวตรงเวลา หรือได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ เช่น ขาดคาร์โบไฮเดรตหรือเกลือแร่ KUBET อาจทำให้เกิดอาการได้
  7. พฤติกรรมการนอน
    ทั้งนอนน้อยเกินไป หรือ “นอนมากเกินไป” ในวันหยุด อาจทำให้สมองขาดสมดุลและเกิดไมเกรน
  8. ยาบางชนิด
    เช่น ยาคุมกำเนิด หรือยาฮอร์โมน อาจกระตุ้นให้เกิดไมเกรนจากการขยายหลอดเลือด KUBET ควรปรึกษาแพทย์หากสงสัยว่ายามีผลต่ออาการ

วิธีบรรเทาไมเกรนโดยไม่พึ่งยา

  1. หาที่เงียบและมืดพักผ่อน
    หากเริ่มมีอาการ ให้หยุดกิจกรรมทันที แล้วหาที่เงียบ พักสายตาและงีบเบาๆ ประมาณ 20–30 นาที
  2. ประคบเย็นหรือร้อน
    ประคบเย็นช่วยลดอาการอักเสบและบรรเทาปวด
    ประคบร้อนช่วยคลายกล้ามเนื้อ ควบคู่กับการอาบน้ำอุ่นหรือแช่เท้าก็ได้ผลดีเช่นกัน
  3. ดื่มกาแฟในปริมาณน้อย
    กาแฟในปริมาณน้อยอาจช่วยลดอาการ แต่ต้องระวังไม่ดื่มเกินไป เพราะอาจเกิด “อาการถอนคาเฟอีน” ได้
  4. คลายกล้ามเนื้อ
    การยืดเหยียด หรือการใช้ลูกกลิ้งกล้ามเนื้อช่วยลดความตึงในร่างกาย ช่วยบรรเทาอาการไมเกรนได้
  5. นวดบริเวณศีรษะ
    นวดท้ายทอย คอ และไหล่เบาๆ จะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต ใช้ร่วมกับน้ำมันหอมระเหยเช่นเปปเปอร์มินต์จะยิ่งดี

ไมเกรนควรพบแพทย์ที่แผนกใด

หากไมเกรนเกิดบ่อยหรือรุนแรง ควรปรึกษาแพทย์ โดยสามารถไปพบที่:
– แผนกเวชปฏิบัติทั่วไป (อายุรกรรม หรือเวชกรรมครอบครัว) หากอาการไม่ซับซ้อน
– แผนกประสาทวิทยา (Neurology) หรือคลินิกโรคปวด KUBET หากไมเกรนเรื้อรังหรือไม่ตอบสนองต่อยาทั่วไป

2 วิธีป้องกันไมเกรนระยะยาว

  1. ปรับพฤติกรรมการกิน
    หลีกเลี่ยงอาหารที่มีสารกระตุ้นไมเกรน เช่น
    ช็อกโกแลต ชีส ส้ม มะนาว เนื้อสัตว์แปรรูป ผงชูรส สารให้ความหวานแทนน้ำตาล
  2. ออกกำลังกายแบบแอโรบิก
    การออกกำลังกายช่วยปรับสมดุลระบบประสาท แนะนำให้ทำอย่างน้อย 3 ครั้งต่อสัปดาห์ ครั้งละ 15 นาที เช่น เดินเร็ว ว่ายน้ำ โยคะ โดยต้องสังเกตตนเอง เพราะบางคนอาจรู้สึกปวดหัวมากขึ้นในช่วงแรก หากไม่สบายให้หยุดและปรึกษาแพทย์

คำถามพบบ่อยเกี่ยวกับไมเกรน

  1. ทำไมผู้หญิงปวดไมเกรนช่วงมีประจำเดือนบ่อย?
    ฮอร์โมนเอสโตรเจนลดลงก่อนมีประจำเดือน เป็นปัจจัยหลัก ควรลดอาหารกระตุ้น เช่น ช็อกโกแลต โยคะหรือเดินเบาๆ จะช่วยได้ หากอาการรุนแรงควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับยาป้องกัน
  2. กาแฟทำให้ไมเกรนแย่ลงหรือดีขึ้นกันแน่?
    แล้วแต่คน บางคนดีขึ้นเมื่อดื่มน้อย แต่บางคนยิ่งแย่ แนะนำให้ไม่ดื่มเกินวันละ 1 แก้ว (ประมาณ 200 มิลลิกรัมคาเฟอีน)
  3. ออกกำลังกายตอนเป็นไมเกรนได้ไหม?
    สามารถทำได้ แต่ควรเป็นการออกกำลังกายแบบเบา เช่น เดิน ว่ายน้ำ โยคะ หากรู้สึกปวดมากขึ้น ควรหยุดและพักก่อน

สรุป

ไมเกรนแม้ไม่ใช่โรคร้ายแรง แต่หากปล่อยไว้โดยไม่ดูแล อาจรบกวนการใช้ชีวิตประจำวันอย่างมาก โดยเฉพาะในผู้หญิงที่ฮอร์โมนเปลี่ยนแปลงบ่อย การรู้เท่าทันอาการและจัดการพฤติกรรม จะช่วยลดความถี่ของไมเกรนได้ หากคุณมีอาการไมเกรนเรื้อรัง ลองเริ่มจากการจดบันทึกอาการลงใน “สมุดจดไมเกรน” เพื่อใช้เป็นข้อมูลเมื่อไปพบแพทย์ และอย่าลืมดูแลสุขภาพจิตด้วยเช่นกัน

Q&A

  1. ทำไมผู้หญิงถึงมีโอกาสปวดไมเกรนมากกว่าผู้ชาย?
    ผู้หญิงมีโอกาสปวดไมเกรนมากกว่าผู้ชายถึง 3 เท่า เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรน โดยเฉพาะช่วงก่อนหรือระหว่างมีประจำเดือน ทำให้อาการไมเกรนกำเริบง่ายขึ้น
  2. อาการของไมเกรนมีลักษณะอย่างไร?
    อาการไมเกรนมักปวดหัวระดับปานกลางถึงรุนแรง ปวดข้างเดียวหรือสลับข้าง มีอาการปวดตุบๆ หนักๆ คล้ายชีพจร และปวดมากขึ้นเมื่อขยับร่างกาย นอกจากนี้อาจมีอาการร่วม เช่น แพ้แสงหรือเสียง คลื่นไส้ อาเจียน และเวียนหัว
  3. วิธีบรรเทาไมเกรนโดยไม่พึ่งยา มีอะไรบ้าง?
    สามารถบรรเทาได้โดยการพักผ่อนในที่เงียบและมืด ประคบเย็นหรือร้อน ดื่มกาแฟในปริมาณน้อย คลายกล้ามเนื้อด้วยการยืดเหยียดหรือนวดบริเวณศีรษะ
  4. ควรพบแพทย์แผนกไหนเมื่อมีไมเกรน?
    หากอาการไมเกรนเกิดบ่อยหรือรุนแรง ควรพบแพทย์ที่แผนกเวชปฏิบัติทั่วไป หรือแผนกประสาทวิทยา (Neurology) หากอาการเรื้อรัง
  5. มีวิธีป้องกันไมเกรนระยะยาวอย่างไร?
    ควรปรับพฤติกรรมการกินโดยหลีกเลี่ยงอาหารกระตุ้นไมเกรน และออกกำลังกายแบบแอโรบิกอย่างสม่ำเสมอ เพื่อช่วยลดความถี่และความรุนแรงของอาการ



เนื้อหาที่น่าสนใจ: