สารบัญ
- บทนำ
- ทำไมต้องตรวจสอบร่างกายก่อนบริจาคเลือด
- ข้อควรระวังก่อนและหลังบริจาคเลือด
- หลังบริจาคเลือดสามารถออกกำลังกายได้เมื่อไหร่?
- เงื่อนไขพื้นฐานของผู้บริจาคเลือด
- ผู้ที่ควรงดบริจาค
- ประเภทการบริจาคเลือด
- ประโยชน์ของการบริจาคเลือด
- Q&A
บทนำ
ก่อนเข้าร่วมกิจกรรมบริจาคเลือดKUBET ควรสังเกตสภาพร่างกายตัวเองและทำความเข้าใจ ข้อควรระวัง เพื่อให้ทุกครั้งที่บริจาคเป็นไปอย่างปลอดภัย KUBET การช่วยเหลือผู้อื่นไปพร้อมกับการดูแลสุขภาพตัวเองถือเป็นสิ่งที่ดี
ประเด็น | ข้อควรระวัง / การปฏิบัติ | หมายเหตุ |
---|---|---|
ตรวจสอบสภาพร่างกาย | ควรมีสุขภาพดี ไม่มีอาการไข้ ป่วย หรือเพิ่งฟื้นตัวจากโรค | การบริจาคเลือดขณะร่างกายอ่อนแออาจเป็นอันตราย |
การรับประทานอาหาร | ทานอาหารให้เพียงพอและหลากหลายก่อนบริจาค เลี่ยงอาหารมันหรือหวานจัด | ช่วยให้ระดับน้ำตาลและความดันคงที่ |
การดื่มน้ำ | ดื่มน้ำเพียงพอก่อนบริจาค | ลดความเสี่ยงหน้ามืดหลังบริจาค |
การพักผ่อน | นอนหลับเพียงพอ 6–8 ชั่วโมงก่อนวันบริจาค | ร่างกายจะฟื้นตัวได้เร็วหลังบริจาค |
การสังเกตอาการ | หากมีอาการเวียนศีรษะ ปวดหัว หรือคลื่นไส้ ควรเลื่อนการบริจาค | เพื่อความปลอดภัยของตัวเองและผู้อื่น |
หลังบริจาค | พักสักครู่ ดื่มน้ำ และทานอาหารว่างที่จัดให้ | ลดความเสี่ยงการเป็นลมหลังบริจาค |
ทำไมต้องตรวจสอบร่างกายก่อนบริจาคเลือด
เลือดต้องผ่านการตรวจสอบอย่างเข้มงวดเพื่อให้มั่นใจว่าปลอดภัยสำหรับผู้ป่วย KUBET หากนอนดึกหรือพักผ่อนไม่เพียงพอ อาจทำให้ ระดับฮีโมโกลบินต่ำ จนไม่ผ่านเกณฑ์การบริจาค
ข้อควรระวังก่อนและหลังบริจาคเลือด
1. วันก่อนบริจาค
นอนหลับให้ครบ 8 ชั่วโมง หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์และอดนอน
ดื่มน้ำมาก ๆ เพื่อให้เลือดไหลเวียนดี
รับประทานอาหารรสเค็มปานกลางช่วยให้ฟื้นตัวเร็วขึ้น
หากร่างกายไม่สบาย เช่น เป็นไข้หรือทานยา KUBET ควรงดบริจาค
2. ก่อนบริจาค
บริจาคเลือดทั้งตัว (Whole Blood) ควรดื่มน้ำ 2 แก้ว (ประมาณ 300 มล.) 3 ชั่วโมงก่อน และอีก 2 แก้วหลังถึงจุดบริจาค
ห้ามอดอาหาร ควรทานอาหารหรือขนมเบา ๆ หากไม่ได้ทาน KUBET ต้องแจ้งเจ้าหน้าที่
3. หลังบริจาค
กดจุดเจาะเข็มอย่างน้อย 5 นาที ใช้ผ้าพันยืดหยุ่นอย่างน้อย 30 นาทีเพื่อลดรอยฟกช้ำ KUBET
พัก 10–15 นาที และตรวจสอบอาการก่อนออกจากจุดบริจาค
ใน 1 ชั่วโมงหลังบริจาค ดื่มน้ำประมาณ 3 แก้ว (500 มล.) และทานขนมเล็ก ๆ
หากเวียนศีรษะหรือไม่สบาย ควรนั่งหรือเอนตัวทันที
หลีกเลี่ยงสภาพแวดล้อมร้อนหรืออยู่กลางแดดจัด KUBET เช่น ซาวน่า อ่างน้ำร้อน

หลังบริจาคเลือดสามารถออกกำลังกายได้เมื่อไหร่?
1. 24 ชั่วโมงแรกควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมหนัก
ร่างกายแต่ละคนฟื้นตัวแตกต่างกัน บางคนอาจรู้สึก อ่อนเพลียหรือเวียนศีรษะ
แนะนำให้ทำกิจกรรมเบา ๆ เช่น เดินช้า ๆ หรือยืดเส้นยืดสาย
2. ปรับระดับการออกกำลังกายตามร่างกาย
หลังจาก 24 ชั่วโมง สามารถกลับมาทำกิจกรรมปกติหรือปรับความเข้มข้นตามร่างกาย
3. นักกีฬาควรหลีกเลี่ยงบริจาคก่อนการแข่งขัน 4–6 สัปดาห์
แม้ร่างกายจะฟื้นปริมาณเลือดภายใน 48 ชั่วโมง แต่ เซลล์เม็ดเลือดแดงต้องใช้เวลาหลายสัปดาห์
เพื่อให้ร่างกายมีเลือดเพียงพอและฟื้นฟูสมรรถภาพเต็มที่ KUBET โดยเฉพาะกีฬาอึด เช่น มาราธอน ไตรกีฬา
เงื่อนไขพื้นฐานของผู้บริจาคเลือด
อายุ
17–65 ปี หากอายุต่ำกว่า 17 ปี ต้องได้รับความยินยอมผู้ปกครอง
65–70 ปี ต้องได้รับความเห็นชอบจากแพทย์
น้ำหนัก
ผู้หญิง ≥ 45 กก., ผู้ชาย ≥ 50 กก. (สำหรับบริจาคเลือดทั้งตัว)
สำหรับบริจาคเกล็ดเลือด ≥ 50 กก.
ผู้ที่ควรงดบริจาค
หญิงตั้งครรภ์หรือหลังคลอด 6 เดือน
โรคติดเชื้อ หรือโรคเรื้อรังบางชนิด
การทำฟัน/รับยาใน 7 วันก่อนบริจาค
ได้รับวัคซีนใน 4 สัปดาห์ก่อน
ประวัติเชื้อไวรัส B/C, HIV, หรือโรคติดต่ออื่น ๆ
ประวัติการสัก, การรับเลือด, การผ่าตัดใหญ่ หรืออยู่ในพื้นที่เสี่ยงต่อโรค
ประเภทการบริจาคเลือด
1. บริจาคเลือดทั้งตัว (Whole Blood)
ดึงเลือดรวมทุกส่วน (เม็ดเลือดแดง, เม็ดเลือดขาว, เกล็ดเลือด, พลาสมา)
เวลา: 15–20 นาที
ใช้สำหรับ: ผู้ป่วยต้องการเลือดในกรณีผ่าตัด อุบัติเหตุ
2. บริจาคเลือดแยกส่วน (Apheresis)
แยกเกล็ดเลือดหรือพลาสมา ส่วนที่เหลือคืนร่างกาย
เวลา: 2 ชั่วโมงขึ้นไป
ใช้สำหรับ: ผู้ป่วยเลือดจางจากเคมีบำบัด, เลือดเกล็ดเลือดไม่เพียงพอ, KUBET ผู้รับปลูกถ่ายไขกระดูก
ประโยชน์ของการบริจาคเลือด
ตรวจสุขภาพเบื้องต้น
วัดอุณหภูมิ, ชีพจร, ความดัน, ฮีโมโกลบิน
ตรวจโรคติดต่อ 13 ชนิด เช่น B/C Hepatitis, HIV
เพิ่มสุขภาพจิต
รับรู้ว่าช่วยชีวิตหรือปรับปรุงสุขภาพผู้อื่น เพิ่มความพึงพอใจและความสุข
กระตุ้นการไหลเวียนเลือดและเมตาบอลิซึ่ม
เลือดเก่าและใหม่ผสมกัน ร่างกายจะสร้างเลือดใหม่ KUBET เพิ่มประสิทธิภาพการไหลเวียน ลดความเสี่ยงหลอดเลือดอุดตัน
Q&A
คำถาม 1: ก่อนบริจาคเลือดควรทำอะไรเพื่อให้ร่างกายพร้อมที่สุด?
คำตอบ: ควรนอนหลับให้ครบ 8 ชั่วโมง, ดื่มน้ำมาก ๆ, รับประทานอาหารรสเค็มปานกลาง, และงดบริจาคหากร่างกายไม่สบายหรือทานยา
คำถาม 2: หลังบริจาคเลือดควรปฏิบัติอย่างไรใน 1 ชั่วโมงแรก?
คำตอบ: ควรดื่มน้ำประมาณ 3 แก้ว (500 มล.) และทานขนมเล็ก ๆ, พัก 10–15 นาที, กดจุดเจาะเข็ม 5 นาที, ใช้ผ้าพันยืดหยุ่น 30 นาที, หากเวียนศีรษะให้เอนตัวทันที และหลีกเลี่ยงสภาพแวดล้อมร้อน
คำถาม 3: หลังบริจาคเลือดสามารถออกกำลังกายได้เมื่อไหร่และควรทำอย่างไร?
คำตอบ: ใน 24 ชั่วโมงแรกควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมหนัก ทำกิจกรรมเบา ๆ เช่น เดินช้า ๆ หรือยืดเส้นยืดสาย หลัง 24 ชั่วโมงสามารถปรับระดับการออกกำลังกายตามร่างกายได้
คำถาม 4: นักกีฬาควรเว้นช่วงเวลาเท่าไหร่ก่อนบริจาคเลือด?
คำตอบ: นักกีฬาควรหลีกเลี่ยงบริจาคเลือดก่อนการแข่งขัน 4–6 สัปดาห์ เพื่อให้ร่างกายฟื้นฟูสมรรถภาพเต็มที่และมีปริมาณเลือดเพียงพอ
คำถาม 5: ประโยชน์ของการบริจาคเลือดมีอะไรบ้าง?
คำตอบ: ตรวจสุขภาพเบื้องต้น, ตรวจโรคติดต่อ 13 ชนิด, เพิ่มสุขภาพจิตและความสุข, กระตุ้นการไหลเวียนเลือดและเมตาบอลิซึ่ม, ลดความเสี่ยงหลอดเลือดอุดตัน
เนื้อหาที่น่าสนใจ: