สารบัญ
- บทนำ
- รู้จัก “กล้ามเนื้อไบเซปส์” ก่อนเริ่มฝึก
- ทำไมมือใหม่ชอบฝึกไบเซปส์มากเกินไป?
- หลักการจัดตารางฝึกที่ถูกต้อง
- 3 ท่าฝึกไบเซปส์ แนะนำสำหรับมือใหม่
- คำถามพบบ่อยเกี่ยวกับการฝึกไบเซปส์
- สรุป: อยากได้ “ลูกหนู” ต้องฝึกให้ถูกและครบ
- Q&A
บทนำ
หลายคนที่เพิ่งเข้าสู่โลกของฟิตเนส KUBET สิ่งแรกที่มักทำคือหยิบดัมเบลแล้วฝึก “ลูกหนู” (กล้ามเนื้อไบเซปส์) หน้ากระจก หวังให้ขึ้นลูกเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่รู้หรือไม่? KUBETหากฝึกผิดวิธี นอกจากจะไม่ได้ผล อาจทำให้รูปร่างเสียสมดุล หรือเสี่ยงบาดเจ็บได้ง่าย

วันนี้เราจะมาไขข้อเข้าใจผิดเกี่ยวกับการฝึกไบเซปส์ KUBET พร้อมทั้งให้คำแนะนำที่ถูกต้อง เพื่อให้คุณได้กล้ามแขนที่สวย แข็งแรง และปลอดภัย
รู้จัก “กล้ามเนื้อไบเซปส์” ก่อนเริ่มฝึก
หน้าที่หลัก ของกล้ามเนื้อไบเซปส์ KUBET คือการงอข้อศอก เช่น การยกของ หยิบจับสิ่งของ
ตำแหน่ง: อยู่บริเวณด้านหน้าต้นแขน เวลางอแขนจะเห็นนูนชัด
ประกอบด้วย 2 ส่วนหลัก:
- ไบเซปส์ส่วนยาว (Long Head): ช่วยให้กล้ามดูสูงและมีมิติ
- ไบเซปส์ส่วนสั้น (Short Head): ทำให้แขนดูหนาแน่น มีพลัง
ทำไมมือใหม่ชอบฝึกไบเซปส์มากเกินไป?
- เพราะเป็นกล้ามที่มองเห็นได้ชัด
- ท่าฝึกง่าย ยกแล้วรู้สึกถึงการใช้งานทันที
แต่! ถ้าฝึกแต่ไบเซปส์เพียงอย่างเดียว โดยไม่ฝึกกล้ามเนื้อส่วนอื่น KUBET เช่น ไหล่ หลัง อก หรือ “กล้ามเนื้อฝ่ายตรงข้าม” อย่างไตรเซปส์ (สามหัว) จะทำให้รูปร่างเสียสมดุลKUBET และข้อต่อไม่มั่นคง🛑 ระวัง! ฝึกไบเซปส์มากเกินอาจกลายเป็นคนแขนโป่งแต่ไหล่แคบ (ลักษณะคล้ายตัวการ์ตูน)
หลักการจัดตารางฝึกที่ถูกต้อง
✅ ใช้หลัก “ฝึกควบคู่ตามกลุ่มกล้ามเนื้อ”
- วันฝึกหลัง: รวมท่าใช้แรงดึง เช่น ดึงข้อ/划船 แล้วเสริมด้วยไบเซปส์อีก 1–2 ท่า
- วันฝึกหน้าอก: เน้นท่าผลัก เช่น Bench Press แล้วเสริมด้วยท่าไตรเซปส์ เช่น Triceps Pushdown
แบบนี้ช่วยฝึกครบกล้ามเนื้อ KUBET ทั้งใหญ่และเล็ก ไม่เสียเวลา และไม่ฝึกซ้ำซ้อน
3 ท่าฝึกไบเซปส์ แนะนำสำหรับมือใหม่
- Dumbbell Incline Curl (ดัมเบลบนเบาะเอียง):
ยืดกล้ามส่วนยาว เพิ่มแรงตึงขณะยก ช่วยให้กล้ามดูสูงขึ้น - Standing Curl + Supination (ยืนบิดข้อมือ):
บิดข้อมือเข้าขณะยก ช่วยกระตุ้นกล้ามส่วนสั้นชัดเจนขึ้น - Hammer Curl (ยกแบบหงายค้อน):
กระตุ้นกล้ามเนื้อด้านข้างแขน (Brachioradialis) ให้แขนดูเต็มขึ้น
💡 ฝึกด้วยจังหวะควบคุม:
ยกขึ้น (ช่วง concentric) 2 วินาที → ลดลง (eccentric) 2 วินาที
หลีกเลี่ยงการแกว่งหรือรีบฝึกเร็วเกินไป
คำถามพบบ่อยเกี่ยวกับการฝึกไบเซปส์
1. ฝึกทุกวันได้ไหม?
ไม่ควร! กล้ามเนื้อต้องการเวลาฟื้นฟู 48 ชม. หลังฝึก การฝึกทุกวันทำให้กล้ามไม่โต KUBET และเสี่ยงบาดเจ็บ
หลัก 3 อย่างที่ขาดไม่ได้: กิน – พัก – ฝึก
2. ฝึกแล้วปวดหลังล่าง?
นั่นคือคุณใช้ “หลัง” ช่วยแทนแขน — เรียกว่า “การชดเชย”
วิธีแก้:
- ฝึกข้างกำแพงหรือใช้เครื่องช่วยเพื่อให้หลังตรง
- ใช้น้ำหนักเบาลงและควบคุมท่าให้มากขึ้น
3. ปวดข้อมือขณะฝึก?
เกิดจากการจับแน่นเกินไป หรือท่าจับผิดมุม
วิธีแก้:
- เปลี่ยนเป็นน้ำหนักเบา
- ผ่อนแรงจับ
- ยืด/คลายกล้ามเนื้อหน้าแขนก่อนฝึก เช่น ใช้ลูกบอลหรือโฟมโรล
4. ไม่มีอุปกรณ์ที่บ้าน ฝึกไบเซปส์ได้ไหม?
ท่าวิดพื้น ไม่ได้ เน้นไบเซปส์เป็นหลัก — ส่วนมากใช้หน้าอกและไตรเซปส์
ทางเลือก:
- ใช้ขวดน้ำ/เป้หนัก ๆ ยกแทนดัมเบล
- ใช้ยางยืดสำหรับการฝึกต้านแรง
สรุป: อยากได้ “ลูกหนู” ต้องฝึกให้ถูกและครบ
กล้ามเนื้อไบเซปส์แม้จะเล็ก แต่ดึงดูดสายตาได้มาก KUBET หากฝึกถูกวิธีจะช่วยให้แขนดูแข็งแรง มั่นใจยามใส่เสื้อยืด
แต่หากฝึกเฉพาะกล้ามเนื้อใดกล้ามเนื้อหนึ่งมากเกินไป KUBET อาจนำไปสู่ “ร่างกายไม่สมดุล” และบาดเจ็บในระยะยาว
✨ เป้าหมายไม่ใช่แค่กล้ามใหญ่ แต่ต้องแข็งแรง ปลอดภัย และดูดีแบบองค์รวม
Q&A
1. กล้ามเนื้อไบเซปส์มีหน้าที่อะไร และประกอบด้วยส่วนใดบ้าง?
ตอบ: กล้ามเนื้อไบเซปส์ทำหน้าที่หลักในการงอข้อศอก และประกอบด้วย 2 ส่วนคือ ส่วนยาว (ช่วยให้กล้ามดูสูง) และส่วนสั้น (ช่วยให้แขนดูหนาแน่น)
2. ทำไมมือใหม่ถึงไม่ควรฝึกไบเซปส์อย่างเดียว?
ตอบ: เพราะจะทำให้ร่างกายเสียสมดุล ข้อต่อไม่มั่นคง และเสี่ยงแขนโป่งแต่ไหล่แคบ ควรฝึกกล้ามเนื้อส่วนอื่นร่วมด้วย เช่น ไหล่ หลัง อก และไตรเซปส์
3. มือใหม่ควรฝึกไบเซปส์ด้วยท่าไหนบ้าง?
ตอบ: ควรเริ่มจาก 3 ท่าหลัก ได้แก่ Dumbbell Incline Curl, Standing Curl + Supination และ Hammer Curl โดยเน้นจังหวะที่ควบคุมและไม่แกว่งตัว
4. ปวดหลังหรือล้าข้อมือขณะฝึก ควรทำอย่างไร?
ตอบ: ให้ลดน้ำหนักลง ฝึกให้ถูกท่า เช่น ยืนชิดกำแพง และคลายข้อมือก่อนฝึก หลีกเลี่ยงการจับแน่นเกินไปหรืองอข้อมือผิดมุม
5. ถ้าไม่มีอุปกรณ์ฝึกที่บ้าน จะฝึกไบเซปส์ได้อย่างไร?
ตอบ: สามารถใช้ขวดน้ำ เป้น้ำหนัก หรือยางยืดแทนดัมเบลได้ แต่ควรหลีกเลี่ยงท่าวิดพื้นเพราะไม่ได้เน้นไบเซปส์โดยตรง
เนื้อหาที่น่าสนใจ: