สารบัญ
- บทนำ
- หลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้นภูมิแพ้
- กินอาหารสดใหม่
- เสริมภูมิคุ้มกันด้วยสารอาหาร
- ออกกำลังกายและปรับสมดุลชีวิต
- Q&A
บทนำ
คุณมีอาการจมูกแพ้บ่อยๆ หรือไม่? โดยเฉพาะในช่วงเปลี่ยนฤดูกาล ที่มักมีอาการคัดจมูก คันจมูก น้ำมูกไหล หรือจามถี่ นอกจากนั้น บางคนยังมีอาการตาแดง คันตา คออักเสบ KUBET หรือหลอดลมบวมอีกด้วย ซึ่งล้วนส่งผลให้หลับไม่สนิท สมาธิแย่ลง และประสิทธิภาพในการเรียนหรือทำงานลดลงอย่างเห็นได้ชัด คุณ เฉิน หยาเจิน นักโภชนาการจากศูนย์ตรวจสุขภาพเน่ยหูของโรงพยาบาล Cathay แนะนำ 4 วิธีสำคัญ ที่จะช่วยบรรเทาอาการแพ้ และตัดวงจรภูมิแพ้ที่กลับมาเป็นซ้ำๆ KUBET ได้อย่างยั่งยืน
| อาการ/ผลกระทบ | รายละเอียด |
|---|---|
| คัดจมูก | จมูกอุดตัน ทำให้หายใจลำบาก นอนหลับไม่สนิท |
| คันจมูก | รบกวนสมาธิและกิจกรรมประจำวัน |
| น้ำมูกไหล | เกิดจากการตอบสนองต่อสารก่อภูมิแพ้ ทำให้ไม่สบายตัว |
| จามถี่ | รบกวนการทำงานหรือการเรียน |
| ตาแดง คันตา | ระคายเคืองตา ทำให้สายตาอ่อนล้า |
| คออักเสบ | เจ็บคอ กลืนอาหารลำบาก |
| หลอดลมบวม | หายใจติดขัด เพิ่มความเสี่ยงโรคทางเดินหายใจ |
| ผลกระทบรวม | นอนหลับไม่สนิท, สมาธิลดลง, ประสิทธิภาพการทำงาน/เรียนลด |
หลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้นภูมิแพ้ – ป้องกันตั้งแต่ต้นเหตุ
การหลีกเลี่ยงสิ่งที่กระตุ้นภูมิแพ้คือวิธีที่ตรงจุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุด KUBET แต่เนื่องจากสารก่อภูมิแพ้มีอยู่ทั่วไป ทั้งในอาหาร ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ หรือแม้แต่อากาศที่เราหายใจเข้าไป KUBET การสังเกตว่าปัจจัยใดในชีวิตประจำวันเป็นตัวกระตุ้นจึงสำคัญมาก คุณสามารถลดการสัมผัสสารก่อภูมิแพ้ได้โดย
- ใช้เครื่องลดความชื้นและเครื่องฟอกอากาศในบ้าน
- ทำความสะอาดเครื่องนอนและผ้าม่านเป็นประจำ
- หลีกเลี่ยงสัตว์เลี้ยงที่มีขนหากพบว่าแพ้ขนสัตว์
- ตรวจหาสารก่อภูมิแพ้ผ่านการตรวจเลือด KUBET เพื่อระบุสาเหตุที่แท้จริง
ตัวอย่างสารก่อภูมิแพ้ที่พบบ่อย
- ประเภทที่สูดดมได้ (15 ชนิด) เช่น รา ฝุ่น ไรฝุ่น แมลงสาบ ขนแมว ขนสุนัข
- ประเภทอาหาร (9 ชนิด) เช่น ปลาแซลมอน ปลาทูน่า กุ้ง นม ไข่ ถั่วลิสง KUBET และมัสตาร์ด
กินอาหารสดใหม่ หลีกเลี่ยงของแปรรูปและอาหารกระตุ้นการอักเสบ
อาหารที่ไม่สดมักมีปริมาณฮีสตามีนสูง ซึ่งเป็นสารที่กระตุ้นอาการแพ้ KUBET ส่วนอาหารแปรรูป เช่น ของทอด ขนมหวาน หรืออาหารที่มีสารแต่งกลิ่น สี และรส ก็เพิ่มความเสี่ยงต่อการอักเสบในร่างกาย
- เลือกรับประทานอาหารสดใหม่ ไม่ผ่านกระบวนการมาก
- ลดอาหารไขมันสูงและน้ำตาลสูง
- เพิ่มผักผลไม้ ธัญพืชเต็มเมล็ด และโปรตีนจากธรรมชาติในแต่ละมื้อ
การกินอาหารสดไม่เพียงช่วยลดการแพ้ KUBET แต่ยังช่วยให้ร่างกายได้รสชาติจากธรรมชาติและคงคุณค่าทางโภชนาการไว้อย่างครบถ้วน
เสริมภูมิคุ้มกันด้วยสารอาหารที่ช่วยต้านการอักเสบและภูมิแพ้
ระบบภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงคือเกราะป้องกันชั้นแรกของร่างกายในการต่อสู้กับภูมิแพ้ KUBET การได้รับสารอาหารที่เหมาะสมสามารถช่วยลดอาการแพ้และปรับสมดุลการอักเสบได้
- วิตามิน C: ช่วยในการซ่อมแซมเนื้อเยื่อและเสริมภูมิคุ้มกัน พบมากในผลไม้และผักสด เช่น ฝรั่ง กีวี และพริกหวาน
- วิตามิน D: ช่วยปรับสมดุลภูมิคุ้มกัน ลดการอักเสบ และปกป้องระบบทางเดินหายใจ แหล่งธรรมชาติคือ น้ำมันตับปลา ปลาไขมันสูง ตับปลา และเห็ดที่โดนแสงแดด
- กรดไขมัน Omega-3: มีฤทธิ์ต้านการอักเสบ ช่วยลดอาการแพ้และอาการบวม พบในปลาแซลมอน ปลาซาบะ ปลาทู น้ำมันงา และถั่วต่างๆ
- โปรไบโอติกและพรีไบโอติก: ลำไส้คือ “ด่านหน้า” ของระบบภูมิคุ้มกัน แหล่งอาหารได้แก่ โยเกิร์ต นมเปรี้ยว ผักดอง มิโสะ และธัญพืชเต็มเมล็ด
- ไฟโตนิวเทรียนต์ (สารพฤกษเคมี): เช่น เควอซิติน ฟลาโวนอยด์ และแอนโทไซยานิน KUBET พบในผักผลไม้หลากสีและธัญพืชต่างๆ
ออกกำลังกายสม่ำเสมอ และปรับสมดุลการใช้ชีวิต
การนอนหลับไม่เพียงพอ ความเครียดเรื้อรัง และการพักผ่อนไม่เป็นเวลาจะทำให้ภูมิคุ้มกันลดลง ส่งผลให้อาการแพ้รุนแรงขึ้น
- นอนให้ได้อย่างน้อย 7 ชั่วโมงต่อคืน
- หลีกเลี่ยงการนอนดึกและความเครียดสะสม
- ออกกำลังกายเป็นประจำ เช่น เดินเร็ว วิ่งเหยาะ โยคะ หรือปั่นจักรยาน
- การออกกำลังกายกลางแจ้งยังช่วยให้ร่างกายได้รับแสงแดด ซึ่งช่วยในการสร้างวิตามิน D
หากปรับทั้งอาหาร การออกกำลังกาย และการพักผ่อนแล้ว แต่อาการยังคงเกิดซ้ำ ควรรีบปรึกษาแพทย์เฉพาะทางเพื่อหาสาเหตุอย่างละเอียดและเข้ารับการรักษาให้ตรงจุด
Q&A
คำถามที่ 1: อาการแพ้จมูกส่งผลต่อคุณภาพชีวิตอย่างไรบ้าง?
คำตอบ: อาการแพ้จมูกทำให้มีอาการคัดจมูก คันจมูก จามบ่อย น้ำมูกไหล และบางรายมีตาแดงหรือคออักเสบร่วมด้วย ส่งผลให้หลับไม่สนิท สมาธิลดลง และประสิทธิภาพในการเรียนหรือทำงานลดลงอย่างชัดเจน
คำถามที่ 2: ทำไมการหลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้นภูมิแพ้จึงสำคัญที่สุด?
คำตอบ: เพราะเป็นการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุโดยตรง การลดการสัมผัสกับสารก่อภูมิแพ้ เช่น ฝุ่น ไรฝุ่น ขนสัตว์ หรืออาหารบางชนิด จะช่วยป้องกันไม่ให้อาการกำเริบ การใช้เครื่องฟอกอากาศ การทำความสะอาดบ้านสม่ำเสมอ และการตรวจหาสาเหตุจากการแพ้ด้วยการตรวจเลือด ล้วนช่วยลดโอกาสกลับมาเป็นซ้ำได้
คำถามที่ 3: อาหารสดใหม่ช่วยลดอาการแพ้ได้อย่างไร?
คำตอบ: อาหารสดมีปริมาณฮีสตามีนน้อยกว่าอาหารแปรรูป ซึ่งช่วยลดการอักเสบและลดการกระตุ้นภูมิแพ้ การหลีกเลี่ยงของทอด ของหวาน และอาหารที่มีสารแต่งสี กลิ่น หรือรส จะช่วยให้ร่างกายไม่เกิดการกระตุ้นซ้ำ อีกทั้งอาหารสดยังคงคุณค่าทางโภชนาการครบถ้วน
คำถามที่ 4: สารอาหารใดช่วยเสริมภูมิคุ้มกันและลดอาการแพ้ได้บ้าง?
คำตอบ: สารอาหารสำคัญ ได้แก่ วิตามิน C จากผลไม้สดช่วยลดการอักเสบ วิตามิน D จากปลาและแสงแดดช่วยปรับสมดุลภูมิคุ้มกัน กรดไขมันโอเมก้า-3 จากปลาทะเลช่วยลดอาการบวม โปรไบโอติกและพรีไบโอติกจากโยเกิร์ตและธัญพืชช่วยดูแลลำไส้ และไฟโตนิวเทรียนต์จากผักผลไม้หลากสีช่วยต้านการอักเสบ
คำถามที่ 5: ควรดูแลสุขภาพอย่างไรเพื่อลดการกลับมาเป็นภูมิแพ้ซ้ำ?
คำตอบ: ควรนอนหลับให้เพียงพออย่างน้อยวันละ 7 ชั่วโมง ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ลดความเครียด และรับแสงแดดอย่างเหมาะสมเพื่อช่วยสร้างวิตามิน D หากปรับพฤติกรรมแล้วยังมีอาการ ควรปรึกษาแพทย์เฉพาะทางเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงและเข้ารับการรักษาอย่างตรงจุด
เนื้อหาที่น่าสนใจ:




